Vegus168 สาระบอลไทย ไทย vs อินโดนีเซีย 17 ธันวาคม 2559 (Thai vs Indonesia) ฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2016 ทีม ชาติไทย จะเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2016 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง วันที่ 17 ธันวาคม 2559 เวลา 19.00 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
สำหรับสถิติของ โดยฟีฟ่า สถิติที่น่าสนใจ ระหว่าง ไทย อินโดนีเซีย 17/12/59 : ทีมชาติไทย อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งปัจจุบัน อยู่ที่ 129 ส่วนอินโดนีเซีย อันดับ 179 ของโลก ฟีฟ่าบันทึกเกมอย่างเป็นทางการ สถิติการพบกัน ระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย เจอกัน 76 ครั้ง ไทยเป็นฝ่ายชนะ 36 ครั้ง เสมอ 14 และ อินโดนีเซีย ชนะ 26 นัด ส่วนในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ไทยชนะ 7 ครั้ง อินโดนีเซีย ชนะ 3 ครั้ง
เกมนี้ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ปรับทัพพอสมควรด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าดาวรุ่งเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับแดนกลางที่ส่ง ชาริล ชัปปุยส์ กองกลางลูกครึ่งไทย-สวิสที่ได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ ส่วนนักเตะรายอื่นประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีราทร บุญมาทัน, อดิศร พรหมรักษ์, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา, ประทุม ชูทอง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ทริสตอง โด
ด้าน อัลเฟรด รีเดิล กุนซืออิเหนา ส่งชื่อ คูร์เนีย ไมกา เฮอร์มานส์ยาห์, เบนี่ วาห์ยูดี, มูฮัมหมัด อับดูห์ เลสตาลูฮู, โบอาซ ซาลอสซ่า, สเตฟาโน่ ลิลิปาลี่, ซุลฮาม ซัมรุล, ริซกี โปร่า, ฟัชรุดดิน อาร์ยานโต, บายู ปราดานา อันเดรียตโมโก, ฮันซามู ยามา ปรานาตา และ มานาฮาติ เลสตูเซน ลงเป็นตัวจริง
เริ่มเกมขุนพลทีมชาติไทยเปิดหน้าบุกเข้าใส่ทันทีและแค่ 3 นาทีได้ลุ้นก่อนจากการเปิดจากด้านข้างของ ธีราทร บุญมาทัน ให้ ประทุม ชูทอง เข้าชาร์จส่งบอลตุงตาข่ายแต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่าธีราทรล้ำหน้าไปก่อนทำให้ไทยพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายง
Vegus168 สาระบอลไทย
จากกรณีที่มีกลุ่มกองเชียร์ใช้ชื่อว่า อุลตร้า ไทยแลนด์ จุดพลุแฟลร์ สีแดงสว่างไสว จนเกิดกลุ่มควันพวยพุ่งและประกายไฟก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับแฟนคลับเข้าร่วมเชียร์ การแข่งขันฟุตบอลในรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ มีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะโจมตีอย่างรุนแรงและตำหนิติเตียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากนำความเสื่อมเสียมาให้กับประเทศ นอกจากนี้อาจส่งผลเสียทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และทีมชาติไทย โดนลงโทษจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพกองเชียร์ดังกล่าวระหว่างการถ่ายทอดสดและการส่งต่อในโลกออนไลน์แล้วนั้น ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก นำกำลังลงไปสืบสวนสอบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้จุดพลุแฟลร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถานอย่างเร่งด่วนแล้ว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า กลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวลักลอบนำอุปกรณ์เชียร์ เข้าไปในสนามราชมังคลากีฬาสถาน และเมื่อถึงช่วงระหว่างการแข่งขัน ได้นำพลุแฟลร์ขึ้นมาจุด ส่วนวัตถุประสงค์ของกลุ่มดังกล่าว ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เป็นการจงใจดิสเครดิตหรือทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือไม่
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทราบด้วยว่า กลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวมีปัญหาในระหว่างการเชียร์กับทีมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการข่าวอยู่ก่อนแล้วว่า จะมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น จึงส่งตำรวจนอกเครื่องแบบและฝ่ายสืบสวน เข้าไปในกลุ่มกองเชียร์ แต่กลุ่มกองเชียร์ทราบว่ามีการตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด จึงไม่ยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของตัวเองเข้าไปร่วมเชียร์
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ภายในและนอกสนามราชมังคลากีฬาสถานเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ในโลกโซเชียลมีเดีย ที่มีการโพสต์ก่อนการแข่งขันไว้เป็นพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุบางคนใช้ผ้าปกปิดหน้าตา เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วระบุได้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ จะออกหมายเรียกมาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิด ในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ โดยมีรัฐเป็นผู้เสียหาย แต่หากประชาชนคนใดได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
กลายเป็น ฮีโร่ ขวัญใจ ชาวไทย อีกคน หลังทีม “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย คว้าแชมป์ ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เอาชนะ อินโดนีเซีย 2 ต่อ 0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
และผู้ทำประตูนัดนี้ ก็คือ “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้า สูงใหญ่ คมเข้ม ดาวรุ่งทั้งสองประตู ทำให้สกอร์รวม 2 นัด ไทยเอาชนะไป 3-2 ครองแชมป์อาเซียนสมัยที่ 5
แต่ว่ากันว่า “ปีโป้” สิโรจน์ ไม่ธรรมดา ทั้งเรื่องฟุตบอล และเรื่องความรัก สาวๆหลายคนอาจจะต้องอกหักเบาๆ หนุ่มๆ อาจจะอิจฉา “ปีโป้”สิโรจน์
ตอนนี้หัวใจ “ปีโป้” สิโรจน์ เห็นทีจะไม่ว่าง ซะแล้ว เพราะ ตอนนี้ มี “ครูฝ้าย” แฟนสาว สุดน่ารัก เข้าไปครอบครองจับจองซะแล้ว ตอนนี้ทั้ง 2 กำลัง คบหาดูใจ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ตามติดนั่งเชียร์ถึงขอบสนามกันเลยทีเดียว…เลยเก็บภาพความน่ารัก ความมุ้งมิ้ง อีกมุมของ กองหน้ามาดเข้มกับแฟนสาว มาฝากแฟนบอลทีมชาติไทย
ดาวเตะวัย 23 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ จนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของศึกชิงแชมป์อาเซียน 2016 ไปครอง นับเป็นครั้งที่ 2 ของ เจ้าตัวที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม หลังเคยได้เมื่อปี 2014 และถือเป็นนักเตะคนแรกของอาเซียนที่ได้รางวัลดังกล่าวถึง 2 สมัยติดต่อกันโดยเจ้าตัวได้เปิดใจหลังคว้ารางวัลนี้ “จริงๆผมไม่คิดว่าจะได้รางวัลนี้มาก่อน เพราะมีคนอื่นที่โชว์ฟอร์มได้เด่นกว่าผมด้วย เราก็ต้องพัฒนาตัวเองต่อไป ขอบคุณพี่โก้ สต๊าฟทีมงานพี่ๆเพื่อนๆที่ทำให้ผมได้รางวัลนี้ รางวัลนี้สามารถเป็นของทุกคนถ้าไม่มีทุกคนผมคงไม่ได้รางวัลนี้” ดาวเตะเจ้าของรางวัลกล่าว p-guta.com
อ้างอิงข้อมูลมาจาก: สโบเบท